16/10/56

สรรพคุณในการบำบัดโรคของเห็ดหลินจือแดง

สรรพคุณในการบำบัดโรคของเห็ดหลินจือแดง










สารสำคัญที่พบในเห็ดหลินจือกว่าร้อยชนิด มีสรรพคุณที่สำคัญทางการแพทย์ได้แก่

1. ฤทธิ์ต้านมะเร็ง โดยการส่งเสริมภูมิคุ้มกัน กระตุ้นให้เม็ดเลือดขาวสร้างสารต้านมะเร็ง ในญี่ปุ่นมีการใช้เห็ดหลินจือควบคู่กับเคมีบำบัดในการรักษาโรคมะเร็ง ช่วยแก้พิษจากรังสี, คีโม เช่น ท้องเสียอักเสบจากการฉายรังสี, เม็ดเลือดขาวต่ำจากคีโม, อาการปวดจากพิษบาดแผล


Shock Therapy คืออะไร




เข้าใจว่ากลไกการตายของเซลล์มะเร็งแบบที่เรียก Apoptosis คือ เซลล์ตายไปเอง น่าจะเกิดจากเซลล์ช็อคสลบไป (Dormant) …

เหตุที่ลดมาก เพราะศักย์ไฟฟ้า (ORP) ลดลงมาก…เหตุที่ลดมากเนื่องจากฤทธิ์ของ e จากวงนอกของ Ge atom

นักวิจัยพบว่า Ge ในหลินจือมีโครงสร้างพิเศษที่จะดึงซับ e ทำให้ ORP หรือศักย์ไฟฟ้าเปลี่ยนไป…ดูเหมือนว่าไม่มีกลไกนี้ในยาแผนปัจจุบัน

กลไก กำจัดเซลล์มะเร็งนั้น Ge จะเข้าไปจับคู่กับ e ที่ผลิตออกมาจากผนังเซลล์มะเร็ง โดยเฉพาะในระยะของการแบ่งตัว ทำให้เซลล์มะเร็งแบ่งตัวไม่ได้ 

บางตำราก็อธิบายว่า 4e วงนอกของ Ge atom ไปปรับศักย์ไฟฟ้าที่ผนังเซลล์มะเร็ง ทำให้สนามแม่เหล็กรอบเซลล์มะเร็งอ่อนลง เม็ดเลือดขาวกลืนกินจึงเข้าถึงตัวเซลล์มะเร็งได้ การจะลด e ปรับศักย์ไฟฟ้าก็ต้องใช้ e มากพอสมควร…ก็ต้องใช้ปริมาณ Ge มากพอควร จึงจะต่อสู้กับเซลล์มะเร็งจำนวนมากได้…จึงจะทำให้เซลล์มะเร็งช็อคได้…

เป็นคำตอบว่าทำไมต้องกินหลินจือสกัดในระยะเริ่มรักษามะเร็งวันละ 60 เม็ด
คำตอบ คือ ต้องการฤทธิ์แบบ Shock Therapy นั่นเอง

เมื่อเปรียบเทียบกลไกต้านมะเร็งของแต่ละกลุ่มสารออกฤทธิ์ในหลินจือแล้ว พอจะสรุปได้ว่า กลูแคนหรือโพลีแซคคาไรด์ เพิ่มความแข็งแกร่งของระบบภูมิคุ้มกัน เช่น เม็ดเลือดขาวกลืนกินแมคโครฟาจ ไตรเตอร์พีนอยด์ ขัดขวางขบวนการแบ่งตัวของเซลล์มะเร็ง ทำให้เซลล์มะเร็งกำจัดตัวเองตายไปคล้ายยาเคมีบำบัด แต่ปลอดภัยไม่เกิดภาวะแทรกซ้อน


Organic Germanium ใช้ e ปรับศักย์ไฟฟ้าหรือสนามแม่เหล็กที่เซลล์มะเร็ง ทำให้เซลล์มะเร็งช็อคตาย หรืออ่อนแรงจนภูมิคุ้มกันของร่างกายเข้าไปกลืนกินทำลายได้ ทั้งไตรเตอร์พีนอยด์ และ Ge ยังเป็นตัวให้ ออกซิเจน แก่เซลล์หรือช่วยให้เซลล์ประหยัดการใช้ออกซิเจน มีผลให้มี ออกซิเจน เหลือใช้ ทำให้ pH เลือดเป็นด่าง อันเป็นภาวะที่เซลล์มะเร็งไม่ชอบเจริญเติบโต




ใช้ขนาดไหน?
ในหนังสือหลิงจือกับข้าพเจ้า กล่าวว่า การรักษามะเร็งด้วยหลินจือนั้นต้องกินแบบ Shock therapy คือ เริ่มด้วยขนาดสูง เช่น หลินจือสกัดวันละ 60 เม็ด หรืออย่างน้อย 20 เม็ด/วัน เพื่อผลการปรับศักย์ไฟฟ้า อย่าลืมว่าระดับความปลอดภัยของหลินจือมีสูงมาก

ส่วนขนาดปกติสำหรับบำรุงร่างกายนั้นน่าจะเป็น 1 แคปซูล พร้อมวิตามินซี 500 มก.

2. ลดความดันโลหิต ลดไขมันในเลือด

3. ลดระดับน้ำตาลในเลือด ช่วยควบคุมอาการเบาหวาน

4. เสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน ลดอาการภูมิแพ้ หอบหืด

5. ยับยั้งการเกาะกลุ่มของเกล็ดเลือด ป้องกันเส้นเลือดอุดตันในสมองและหัวใจ

6. ยับยั้งเชื้อไวรัสในเซลเพาะเลี้ยง เช่น ไวรัสโรคเอดส์ อีสุกอีใส งูสวัด

7. บำรุงและป้องกันตับ มีฤทธิ์ยับยั้งการสร้างพังผืดในโรคตับแข็ง ป้องกันตับจากสารพิษ ช่วยให้ใยแผลเป็นอ่อนนิ่มคลายตัว ไม่ไปรัดเส้นเลือดและเนื้อเยื่อตับ อีกทั้งยังกระตุ้นให้ตับสร้างเซลล์ใหม่

รักษาโรคตับอักเสบ สามารถลดค่า SGOT และ SGPT ที่สูงเกินมาตรฐานในเลือด ช่วยเซลล์ตับฟื้นฟูสภาพตับเป็นไขมัน (fatty liver)

8. ผ่อนคลายระบบประสาทและกล้ามเนื้อ ช่วยให้นอนหลับสนิท

9. เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยชะลอความแก่ ทำให้ผิวพรรณเปล่งปลั่งสดใส อย่า ลืมว่า กลูแคนในหลินจือแบบทา ยังช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระเฉพาะที่ เมื่อผสานกับการได้สารอาหารโดยรับประทาน น่าจะเสริมแรงแข็งขันในการช่วยให้ผิวเนียน สดใส ชะลอริ้วรอยเหี่ยวย่นอีกด้วย

10. จากทฤษฏีประหยัดออกซิเจน ใช้แก้โรคป่วยบนที่สูง…หูอื้อ.

ทฤษฎีประหยัดออกซิเจน

          การมีสารที่ช่วยทำหน้าที่แทน O2 ในการทำความสะอาดขจัดของเสีย ไฮโดรเจนในร่างกาย ยังผลให้ความต้องการที่จะใช้ O2 ของร่างกายลดน้อยลง       ในขณะเดียวกันก็มีการให้ O2 (O2Supply) เพื่อจะใช้เป็นเชื้อเพลิงเพิ่มมากขึ้นผลพลอยได้ คือ ทำให้ O2 สำรองในเนื้อเยื่อ (Tissue Oxygen reserve ) มีมากขึ้นด้วยแล้ว หลินจือช่วยได้อย่างไร?…พบว่าเยอมาเนียม เป็นธาตุที่ทำปฎิกิริยากับ Hydrogen แล้วขจัดมันออกจากร่างกายได้…ความหมายคือ Geในหลินจือขจัดของเสีย H2 แทนO2 ได้ ทำให้มี O2เหลือใช้ถึง 30%      ผลจากการนี้ทำให้อธิบายได้ ว่าทำไมหลินจือช่วยรักษาโรคหัวใจล้มเหลว เส้นเลือดหัวใจตีบ ถุงลมโป่งพอง อาการป่วยบนที่สูง หรือทุกโรคที่สาเหตุจากการขาด O2        Ge ยังเป็นตัวกระตุ้นให้เม็ดเลือดแดง รับออกซิเจนได้มากกว่าเดิม อย่างน้อย 1.5 เท่า ทำให้เลือดและเซลล์มี O2 เพิ่มขึ้น       ปกติอาหารที่ถูกสันดาปหรือเผาผลาญ ล้วนก่อประจุบวกของ H ทำให้เลือดมีภาวะเป็นกรด ซึ่งเป็นพิษต่อเซลล์ปกติ       หาก ได้ O2 หรือ Mg มาทำปฎิกิริยาประจุบวกของ H ® น้ำ (H2O) ซึ่งไม่เป็นพิษ Ge จะช่วย O จับกับประจุบวก H สร้างความสมดุลไฟฟ้า กับขจัดภาวะเป็นกรดออกไป ทำให้เลือดมี O คงเหลือเป็นจำนวนมาก ที่จะใช้บำรุงเซลล์ และต่อต้านเซลล์มะเร็ง ซึ่งเราทราบว่า เซลล์มะเร็งไม่ชอบ O2 คือไม่ชอบเติบโตในที่ที่มี O2 หรือที่ดร.วอร์เบิก สรุปว่า การขาดออกซิเจนในระดับเซลล์ เป็นสาเหตุสำคัญของการเกิดโรคมะเร็ง


11. ช่วยรักษาโรคไตเรื้อรังบางชนิด โดยฟื้นฟูสมรรถภาพการทำงานของไตให้ดีขึ้น จากฤทธิ์สลายใยแผลเป็น (fibrosis scar) ฤทธิ์ ต้านพังผืดหดยึด ช่วยให้เซลล์ไตดีขึ้น 

อันนี้มีรายงานของ  รศ.พญ.นริสา ฟูตระกูล แห่งคณะแพทย์จุฬา ส่งฤทธิ์เสริมบำรุงไต โดยสามารถลดปริมาณไข่ขาวรั่ว ในโรคไตเรื้อรังอย่างมีนัยยะสำคัญ แตกต่างไปจากการรักษาทั่วไปที่ทำได้ดีที่สุด แค่ชะลอการตายของเนื้อไปให้ช้าลงเท่านั้น หลายรายมีผลช่วยลดอัตรา การล้างไต หรือเลิกล้างไตได้ แต่ทั้งนี้ก็ต้องร่วมกับการควบคุมอาหารพิษประจำวัน เช่น โปรตีน ไขมัน น้ำตาล กรดต่างๆ ด้วย



ทฤษฎีใยแผลเป็น นพ.บรรเจิด ตันติวิท บรรยายไว้ว่า เมื่ออวัยวะหรือเนื้อเยื่อถูกทำลาย ด้วยการบาดเจ็บอักเสบ สารพิษหรือการเปลี่ยนแปลงภายในร่างกาย ก็จะถูกซ่อมแซมด้วยเส้นใย หรือ fibrous tissue ยังผลให้เกิดเป็นแผลเป็น (scar) ซึ่งบางครั้งใยแผลเป็น ทำให้เกิดปัญหามากมายต่อการทำงานของร่างกาย หลินจือสามารถช่วยละลายเส้นใย ทำให้ใยแผลเป็นอ่อนนิ่มและหดตัวเล็กลง จึงมีศักยภาพสูงที่จะใช้ในการรักษาโรคหลายโรคที่มีสาเหตุจากใยแผลเป็น 

คำว่า ใยแผลเป็นหรือ fibrous scar บางตำราอาจเรียกว่า พังผืดหดยึด หรือการเกิดพังผืดรัดภายหลัง การเกิดบาดแผล เป็นต้น เมื่อ เกิดการอักเสบหรือบาดเจ็บจากอุบัติเหตุไฟไหม้ หรือฉายแสงรังสี เซลล์หรือเนื้อเยื่อที่ถูกทำลายจะไม่งอกใหม่ ร่างกายจะนำเส้นใยมาซ่อมแซม ผลก็คือ เป็นแผลเป็น ภายในร่างกายก็มีแผลเกิดได้ ไม่ว่าที่กล้ามเนื้อ ตับ ไต สมอง ฯลฯ ใย แผลเป็นยิ่งนานก็จะยิ่งแข็งและหดตัว เกิดการรัด ดึง เบียด บีบให้เนื้อเยื่อดีๆ เสียรูปทรงได้ จนทำให้อวัยวะไม่สามารถทำงานตามปกติได้ เช่นที่ลำไส้ก็อาจดึงรั้งจนอุดตัน ที่สมองก็อาจทำให้เป็นลมชักได้

ยา แก้มีไหม…อย่างหนึ่ง คือ สเตียรอยด์ ตัวอย่างที่ใช้ฉีดเข้าไปในแผลเป็นนูน Keloid 

แต่แผลภายในร่างกายจะฉีดสเตียรอยด์เข้าไปได้อย่างไร…ถ้าใช้การกินก็ต้องใช้ ขนาดสูง ผลคือ พิษต่อระบบต่างๆ ของร่างกายกลายเป็นเสียมากกว่าได้


สเตียรอยด์ ธรรมชาติจึงเป็นคำตอบ  หลิน จือสกัดจึงเป็นคำตอบ เพราะหลินจือมี สเตียรอยด์ธรรมชาติ  เป็นสารสมุนไพรระดับดีหนึ่ง ซึ่งไม่พบพิษข้างเคียงเหมือนสเตียรอยด์สังเคราะห์

ปัญหาหมอนรองกระดูกแตก แล้วเกิดใยแผลเป็นดึงรั้งกระดูก หรือเส้นรอบบริเวณไปกดบีบรัดเส้นประสาท ก็ผ่อนคลายได้ด้วยทฤษฎีใยแผลเป็น จึงเป็นทฤษฎีที่อธิบายกลไกว่า ผลจากหมอนรองกระดูกแตกกดทับเส้นประสาททุเลาขึ้นได้ด้วยหลินจือสกัด

ปัญหา ถุงลมโป่งพอง โรคแห่งความเสื่อมที่เกิดจากมลพิษบุหรี่ จนเกิดใยแผลเป็นเต็มปอด ทางแพทย์อาจแก้อาการด้วยสเตียรอยด์ หลินจือจึงช่วยได้ทั้งโดยทฤษฎีใยแผลเป็น และทฤษฎีประหยัดออกซิเจน

ในคศ.1995 คณะแพทย์ม.โอ๊คแลนด์ ได้รายงานว่า Ge ชะลอการเกิดต้อกระจก(cataract ) อีกด้วย 

จับโลหะหนัก สิ่งที่เป็นความหวังนอกเหนือจากกรดแอลฟาไลโปอิคแล้ว Ge ก็มีคุณสมบัติกำจัดโลหะหนักเป็นพิษ (Chelation) เช่น โรคปรอทเป็นพิษ ที่มีของความรู้นี้มาจากความที่เกรงว่า Ge จะก่อพิษ เนื่องจากเป็นธาตุที่เราไม่คุ้นเคย จึงมีการทดสอบการเกิดพิษในหนู โดยใช้ขนาดความเข้มข้นสูงกว่าที่มีในเห็ดหลินจือ 1000 เท่า ผลปรากฎว่า นอกจากไม่เป็นพิษแล้ว ยังช่วยกำจัดพิษด้วย โดยออกซิเจนรอบสารเยอมาเนียมจะพาธาตุโลหะที่เป็นพิษ เช่น แคดเมียม ปรอท และสารก่อมะเร็งอย่างอื่นไปกำจัดทิ้งพร้อมกับสารเยอมาเนียมส่วนเกิน ร่างกายจึงปลอดภัยต่อการตกค้างของโลหะหนัก

แหล่งอ้างอิง : นพ.นิวัฒน์ ศิตวัฒน์, รศ.พญ.นริสา ฟูตระกูล, นพ.บรรเจิด ตันติวิท









ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น